วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554

พบพระนิพพานที่บ้านหลวงปู่(ตอนที่สาม)





                                                               ตอนที่สาม





" เอาล่ะค่ะ...วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน...." เสียงของครูผู้ฝึกร้องเรียกสติของผมให้คืนกลับมา




.....นี่ผมหลับไปถึงสองชั่วโมงเต็มเลยเหรอครับเนี่ย....





ผมกระพริบตาถี่ๆก่อนจะลุกขึ้นเดินออกมาจากในห้องพร้อมกับคนอื่นๆ





" พี่ๆ..." เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลังของผม...




เมื่อผมหันไปตามเสียงเรียกผมก็ต้องพบกับเด็กชายวัยแปดขวบคนที่รู้ไปซะทุกเรื่องนั่นเอง





" มีอะไรเหรอ..."



" ครูปราณีฝากมาบอกว่าอย่าลืมขึ้นไปชั้นสามก่อนกลับนะ..."



" ทำไมเหรอ.."



" ครูแกอยากรู้ว่าคนที่ฝึกครั้งแรกเมื่อวานกับแกแล้วไม่เห็นอะไรน่ะน่ะวันนี้เป็นยังไงบ้าง..."





ผมพยักหน้าช้าๆให้กับเจ้าเด็กนั่น....

ผมก้าวขึ้นบันไดไปชั้นสามก่อนจะพบว่า

ห้องของผู้ฝึกรายใหม่ตอนนี้มีร่างของหญิงร่างท้วมคนหนึ่งกำลังนั่งสมาธิอยู่หน้าองค์พระประธาน.....

ผมมองไปรอบๆก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปข้างใน





" มาแล้วเหรอคะ..." เสียงของครูปราณีดังขึ้น



" สวัสดีครับอาจารย์.."



" ค่ะธรรมะสวัสดี....วันนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ"



" เอ่อ...คือ..."



" วันนี้จิตเป็นสมาธิกว่าเมื่อวานใช่ไหมคะ..."



" เอ้อ..ใช่ครับ..."



" ดีแล้วล่ะค่ะ...อาจารย์คิดไว้ไม่มีผิดว่าคุณต้องทำได้...วันนี้ไปเที่ยวนรกมาเป็นยังไงบ้างคะ...."





ผมนิ่งอึ้งไปทันทีกับคำถามของอาจารย์ปราณี....

ดูท่าว่าหล่อนจะรู้เรื่องของลูกศิษย์ทางธรรมอย่างผมคนนี้เป็นอย่างดีนะครับเนี่ย...





" ฝึกไปเรื่อยๆนะคะ...ที่บ้านหลวงปู่นี้จัดเดือนละสองครั้งในวันเสาร์-อาทิตย์

ของทุกๆต้นเดือนและปลายเดือน....เอาไว้เรามาเจอกันใหม่นะคะ...ธรรมสวัสดีค่ะ.."





ผมกล่าวร่ำลาอาจารย์ปราณีก่อนจะเดินลงมาที่บริเวณชั้นล่างของบ้านหลวงปู่

โดยไม่ลืมที่จะซื้อซีดีบันทึกเสียงของท่านและหนังสืออีกจำนวนหนึ่งกลับมาฝากคุณนายน้ำทิพย์


......




" เย็นนี้อยู่กินหมูจุ่มกับแม่มั้ยภัทร...ตรงหน้าปากซอยบ้านเรามีร้านใหม่มาตั้งน่ะ..

ตอนภัทรขับผ่านมาก็เห็นใช่ไหมลูก..."



" ฮะม๊า..."



" เอ้านี่สองพันที่แม่สัญญาไว้ว่าจะให้..." คุณนายน้ำทิพย์ยื่นธนบัตรใบละหนึ่งพันให้ผมสองใบ






ตกเย็นวันนั้นสรุปว่าโครงการสังสรรค์หมูกระทะของผมและเพื่อนๆในคณะเป็นอันต้องถูกพับไปชั่่วคราว....

ไอ้เจเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนขึ้นระดับมหาวิทยาลัย

ร้องตะโกนใส่ผมทางโทรศัพท์ทันทีที่รู้ว่าผมจะต้องอยู่ทานข้าวกับคุณนายน้ำทิพย์





" โห่..ไอ้ห่ะไหนเอ็งว่าจะมากินเหล้ากับพวกข้าไงวะ..."



" คือ..ข้าไปไม่ได้จริงๆ...เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน.."



" เออๆ..เห็นแก่แม่เอ็งก็แล้วกัน..แต่เอ็งห้ามคืนคำนะเว้ย..."



" เออๆ..รู้แล้วล่ะน่า...แต่ข้าว่าช่วงนี้พวกเอ็งลดๆเหล้ากันหน่อยก็ดีนะ.."



" อะไรกันเมื่อก่อนเอ็งเอาแต่ชวนพวกข้าเป็นว่าเล่นเลยนะเว้ย...ไหงตอนนี้กลับกลายเป็นงั้นไปเล่า.."



" เออ..น่า..ช่างมันเหอะ..ไงก็อย่ากินเยอะละกันนะข้าเป็นห่วง..."





ผมรีบบอกปัดก่อนที่ภาพการทรมานผู้ทำผิดศีลข้อสุราเมรยะจะขึ้นมาอยู่ในหัว...






สองชั่วโมงต่อมาผมและคุณนายน้ำทิพย์นั่งรอชุดหมูจุ่มอยู่ภายในร้านเปิดใหม่หน้าปากซอย....

ผมคุยถึงเรื่องการฝึกวิชาถอดกายทิพย์ของหลวงปู่จันทร์ในวันนี้ให้คุณแม่ฟัง...

เธอทำตาโตเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด





" ตกลงพญามัจจุราชหล่อรึเปล่า..."



" โถ่ม๊า...นอกเรื่องแล้ว..."





ผมเล่าไปจนถึงตอนที่ผมได้พูดคุยกับอาจารย์ปราณี





" แล้วท่านรู้เรื่องที่ภัทรไปนรกได้ยังไงล่ะ.."



" นั่นสิม๊า...ผมก็ยังงงๆอยู่.."



" มาแล้วคร้าบ..."





เสียงของพนักงานเสิร์ฟภายในร้านขัดจังหวะการสนทนาของพวกเราแม่ลูก.....

หม้อดินเผาสำหรับจุ่มเนื้อหมูและต้มผักถูกยกมาตั้งไว้บนโต้ะ


คอหมูย่างถูกนำมาเสิร์ฟบนโต้ะของผมเป็นลำดับแรก





" อร่อย.." คุณนายน้ำทิพย์กับผมแย่งกันคีบคอหมูย่างเข้าปากแทบไม่ทัน..

แต่แล้วในขณะที่ผมกำลังเอร็ดอร่อยอยู่กับอาหารตรงหน้าอยู่นั้น

ภาพของหมูตัวอ้วนตัวหนึ่งที่กำลังดิ้นพราดๆก่อนจะถูกเชือดด้วยคมมีดของคนงานในโรงฆ่าสัตว์

ก็บังเกิดขึ้นราวกับภาพถ่ายต่อเนื่อง





" อ่อก.." ผมคายคอหมูย่างชิ้นที่กำลังเคี้ยวอยู่ในปากทิ้งทันที



" อ้าว...ภัทร...เป็นอะไรไปน่ะ...ไม่อร่อยหรือไง.."



" เปล่าม๊าคือ...."





ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรต่อพนักงานอีกคนเดินถือถาดเนื้อหมูและตับที่หั่นจนเป็นแผ่นเข้ามาวางบนโต๊ะ





" อ้ะ..ภัทร...ของโปรดลูกมาแล้ว..."





ทันทีที่ผมเห็นเนื้อเหล่านั้นผมก็ถึงกับกลั้นอาเจียนไว้ไม่ไหวเพราะภาพที่เกิดขึ้นมาซ้อนทับอีกทีหนึ่งก็คือ...




ไส้หมูมากมายที่ถูกควักออกมาจากตัวของพวกมันซึ่งกำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนสายพาน...


ไส้หมูที่ยังมีเลือดเจิ่งนองถูกยัดใส่ถุงพลาสติกรวมกัน

จนไม่รู้ว่าภายในถุงนั้นมีไส้และตับรวมทั้งเครื่องในของหมูกี่ตัวกันแน่...

แต่ที่ผมรู้ก็คือว่า...พวกมันน่าขยะแขยงมากครับ





" อ้วก...." ผมรีบวิ่งลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนจะปล่อยความรู้สึกพะอืดพะอมไว้ใต้ต้นไม้ข้างร้าน





มันเกิดอะไรกับผมกันแน่ครับ.....นี่ผมยังปกติดีอยู่หรือเปล่า





หรือว่าผมจะกลายเป็นบ้าไปแล้ว





ใครก็ได้ช่วยตอบที!!..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น